‘โบว์ แวนด้า’ และ ‘น้องมะลิ’ จัดงานครบรอบ 7 ปีสูญเสีย ‘ปอ ทฤษฎี’

‘โบว์ แวนด้า’ และ ‘น้องมะลิ’ จัดงานครบรอบ 7 ปีสูญเสีย ‘ปอ ทฤษฎี’

ภาพวันวานยังชัดเจน โบว์ แวนด้า และ น้องมะลิ ร่วมจัดงานทำบุญครบรอบ 7 ปี สูญเสีย ปอ ทฤษฎี พร้อมบอก “วันนี้ปีที่ 7 แล้วนะพ่อ” เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 เป็นวันครบรอบ 7 ปี การจากไปของพระเอกชื่อดังของวงการบันเทิงไทย ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ จากโรคไข้เลือดออก และมีอาการแทรกซ้อน

ซึ่งในวันนี้นั้นภรรยา และคุณแม่คนเก่งอย่าง โบว์ แวนด้า 

และลูกสาวอย่าง น้องมะลิ ยังคงรักและคิดถึงผู้เป็นพ่ออยู่เสมอมา ร่วมกันทำบุญในวันครบรอบอยู่ทุกปีเป็นประจำ ล่าสุด โบว์ ได้โพสต์รูปภาพผ่านเฟสบุคส่วนตัว Bo Vanda Sahawong เป็นบรรยากาศของการจัดงานบุญเช่นเคยอย่างทุกปี พร้อมกับลง IG @vanda29 น้องมะลิ ที่นั่งอยู่ข้างรูปพ่อปอ พร้อมบอกว่า “วันนี้ปีที่ 7 แล้วน้าพ่อ” ใส่เพลงไม่อยู่ในชีวิตแต่อยู่ในหัวใจ

“แองจี้ แสนโกศิก” โพสต์อัปเดตเซตภาพชุดราตรีสีดำ เผยทรวดทรงเอวบางรับกับความเซ็กซี่ พร้อมโชว์หุ่นบางแหวกตั้งแต่ช่วงอกลงไปจนถึงเอว 

ทำไอจีร้อนลุกแผดเผาเป็นไฟแรง “แองจี้ แสนโกศิก” หรือ “น้องแองจี้” ลูกสาวคนสวยของ “คุณปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” เจ้าของเวที มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ (MUT) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพาตัวแทนนางงามจากประเทศไทยเข้าร่วมประกวดบนเวที Miss Universe โดยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 17 มกราคม 2566 “น้องแองจี้” ได้โพสต์เซตภาพยั่ว ๆ สวมชุดเดรสสีดำนิลออกงานราตรี แบรนด์ดัง UNIX เผยให้เห็นเรือนรางสุดเซ็กซี่ รับกับชุดคล้องคอแหวกตัดกลางบริเวณหน้าอก พร้อมยลโฉมรูปร่างเอวบางคอด ดูทีไรใจก็เต้นตูมตาม ทั้งยังเฉือนคมหัวใจชายหนุ่มให้กองลงกับพื้นแบบโงหัวไม่ขึ้น

ก่อนหน้านี้ ในช่วงการประกวดเวทีนางงามจักรวาล “มิสยูนิเวิร์ส 2022” ที่ผ่านมา คุณแองจี้ แสนโกศิก ก็ได้เดินทางไปร่วมให้กำลังใจ “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ตัวแทนนางงามประเทศไทย Miss Universe 2022 อีกด้วย

เรียกว่าเพียงแค่ชุดราตรีสีดำคล้องคอที่แหวกอกไปจนถึงเอว ดีไซน์เรียบหรูมินิมอลจะทำให้ “น้องแองจี้” สวยหยดขึ้นกล้องอะไรเบอร์นี้ ใครอยากติดตามผลงาน สามารถเข้าไปฟอลโล่อินสตาแกรม @axxgie กันได้เลยนะครับ

สะเทือนวงการ ‘เจมี่ บูเฮอร์’ แฉเหตุเลิกเล่นละคร โดนผู้ใหญ่หาว่าขายตัว

กลายเป็นเรื่องฉาวสะเทือนวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้เมื่ออดีตนักแสดงสาว ‘เจมี่ บูเฮอร์‘ ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอลงแอปพลิเคชัน TikTok แฉสาเหตุที่ เลิกเล่นละคร เผยโดนผู้ใหญ่ในวงการดิสเครดิต กล่าวหาว่าขายตัว ทั้งยิ่งหนีเขาก็ยิ่งถูกทำร้าย เพียงเพราะกันซีนไม่อยากให้ร่วมงานกับค่ายอื่น โดยระบุว่า

“คลิปนี้เจมี่จะมาบอกนะคะว่าทำไมเจมี่ถึงไม่เล่นละครอีกแล้ว ก็คือว่ามันเกิดเหตุการณ์ใหญ่หลวงเกิดขึ้นสำหรับเจมี่นะคะอาจจะไม่ได้ออกหน้าสื่อ แต่นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง คือเจมี่ไปร่วมงานกับบริษัทหนึ่งและเขาก็สนับสนุนเราเพื่อให้ได้ประโยชน์ของงานเขา มันก็ดูเป็นการสมประโยชน์ เจมี่ก็ทำงานให้เขาอย่างเต็มที่ ซึ่งมันก็ใช้สปิริตเยอะมากสำหรับงานศิลปะ มันก็มีช่วงหนึ่งที่คนเราทำงานร่วมกัน แต่ในวงการไม่มีใครทำงานกับใครได้ตลอดเวลาที่มันจะไม่ได้ทำงานร่วมกับที่อื่นเขา

ตอนนั้นเจมี่ไปร่วมงานกับที่อื่น ไปถ่ายละครที่สุขุมวิทผู้หญิงคนนั้นก็มากับสามีผู้ยิ่งใหญ่ของเขา เจมี่นั่งแต่งหน้าอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่สองคนนั้นไปนั่งคุยกับผู้จัดละครที่เจมี่เล่นและพูดใส่ร้ายเจมี่ ดิสเครดิตทำให้ผู้จัดคนนั้นเค้าเกลียดเจมี่ เพราะเขารู้สึกว่าแบรนดิ้งความเป็น เจมี่ บูเฮอร์ ชื่อนี้มันเป็นสิทธิ์ของเขา เขาเป็นคนสร้างมา แต่จริง ๆ แล้ว ตอนที่เจมี่ไปร่วมงานกับเขา เจมี่มีชื่อเสียงแล้ว เขาถึงเอาเจมี่ไปร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะบริษัทอื่นก็สนับสนุนเจมี่แบบนี้ แต่เขาถือวิสาสะยึดเอาคำว่า เจมี่ บูเฮอร์ ไปเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา ถ้าเจมี่ไม่ทำงานกับเขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำงานกับคนอื่นได้

เจมี่มองว่าแอตติจูดแบบนี้มันคืออันธพาล ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คนแบบนี้หรอก อย่าเรียกว่าคนเลยนะคะ มันเป็นอสุรกาย เจมี่ก็ไม่อยากยุ่งกับคนแบบนี้เพราะเขามาล่วงละเมิดเรา พอยิ่งหนีเขาก็ยิ่งทำร้ายเราเพื่อที่จะให้เราซมซานไปทำงานกับใครไม่ได้เลยต้องกลับไปหาเขา

หลังจากนั้นก็มีอยู่วันหนึ่งเป็นงานเลี้ยงของช่อง เจมี่ก็ไปสวัสดี ซึ่งเขาก็นั่งอยู่กับในโต๊ะที่มีผู้บริหารช่องใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย เราก็ด้วยมารยาทเลยเข้าไปสวัสดี แต่หลังจากที่เจมี่เดินคล้อยหลังกลับมาเขาก็พูดในโต๊ะว่า เจมี่ขายบริการ ซึ่งเขาเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือมาก เขาพูดว่าเจมี่ทำงานไซด์ไลน์ ขายบริการ เอาความน่าเชื่อถือของเขาเพื่อมาใส่ร้ายเจมี่ เขาพูดว่าเชื่อเขาสิเขาไปเช็กมาแล้วว่าเจมี่ทำงานแบบนี้จริง ๆ และส่งเด็กไปขายบริการที่ประเทศญี่ปุ่น

ตอนนั้นไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ไม่เชื่อเขา เพราะบารมีของสามีเขา เหมือนเขาใช้พาวเวอร์ประมาณว่าถ้าเธอไม่เชื่อฉัน เธอก็ต้องหักกับฉัน เขามีการข่มขู่ทางอารมณ์ เพราะเขาทำใจไม่ได้ที่ชื่อเสียงของเจมี่ที่เขาสร้างมาไม่ได้ไปอยู่กับเขา ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้สร้างมันมาทั้งหมด มันมีหลายบริษัทมากที่ร่วมกันสร้าง มันไม่ใช่เขาคนเดียว แล้วเจมี่ก็มีชื่อเสียงแล้วด้วยตอนที่มาร่วมงานกับเขา เขามองว่าเขามีกรรมสิทธิ์คนเดียว ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วทางกฎหมายเขาไม่มีสิทธิ์ ทางคุณธรรมก็ไม่มีสิทธิ์

เธอฟังฉันให้ดีนะ แรงงานที่ฉันทำงานให้เธอ เธอได้เงินจากสปอนเซอร์จนเธอเอาไปซื้อตึก สร้างตึกที่เธอก็ยังอยู่อาศัยอยู่ทุกวันนี้ นี่คือแรงงานที่มาจากฉันและคนอื่น ๆ อีกมากมายถูกต้องไหม

เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า